การออกแบบห้องพ่นสี
การออกแบบห้องพ่นสี
ห้องพ่นสี
มีความสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมงานพ่นสี ทั้งเพื่อคุณภาพของชิ้นงาน,
ความปลอดภัยของคนงาน รวมทั้ง การลดปริมาณมลพิษต่างๆ สู่สิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ห้องพ่นสีต้องได้รับการออกแบบที่เหมาะสมและถูกต้องตามหลักการ
เพื่อให้ห้องพ่นสีสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากที่สุด โดยวัตถุประสงค์หลักๆ
ของห้องพ่นสีมีดังนี้
-
ป้องกันฝุ่นละอองจากภายนอก
เข้ามาติดผิวหน้าสีของชิ้นงานขณะพ่น
-
ป้องกันการฟุ้งกระจายของละอองสีขณะพ่นสี
-
ทำการดักละอองสีที่ไม่ติดชิ้นงาน
ให้อยู่ในที่จำกัด
-
ทำการซับกลิ่นสี,
กลิ่นทินเนอร์ และสารระเหยอินทรีย์ต่างๆ ก่อนปล่อยสู่บรรยากาศภายนอก
หลักเกณฑ์
ในการออกแบบห้องพ่นสีหลักๆ มีดังนี้
1.
ความสมดุลของอากาศที่เข้าและอากาศที่ถูกดูดออกต้องสมดุลกัน
จะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบาย โดยสามารถทำได้โดย
-
การคำนวณกำลังของชุดพัดลมสำหรับดูดเข้า
และกำลังของชุดพัดลมดูดออกให้สมดุลกัน และเหมาะสมกับปริมาตรของห้องพ่นสี
โดยมีการใช้อินเวอร์เตอร์ ( Inverter control ) ช่วยในการควบคุมอีกที
-
การคำนวณพื้นที่หน้าตัดของระบบกรองอากาศขาเข้า
และพื้นที่หน้าตัดระบบกรองอากาศขาออก
2.
ระบบกรองอากาศ ต้องมีทั้งระบบกรองอากาศก่อนเข้าห้องพ่นสี
(
Pre Filter ) และระบบกรองอากาศก่อนปล่อยสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งมีตัวเลือกในการใช้งานได้หลายแบบ
เช่น ฟิลเตอร์ดักละอองสี ( Paint Arrestor ) ฟิลเตอร์ซับกลิ่น
( Carbon Filter ) ผงถ่านกัมมันต์ ( Activated carbon
) และ ม่านน้ำไหล ( Water curtain ) เป็นต้น
3.
ขนาดและความสูงของปล่องท่อทางออก
ต้องได้รับการออกแบบที่ถูกต้องและเหมาะสม
เพื่อป้องกันลมตีย้อนกลับห้องพ่น
ทำให้เกิดการฟุ้งของละอองสี
-
ขนาดของปล่องที่เหมาะสม
กำหนดจากความเร็วลม โดยความเร็วลมต่ำสุดของอากาศภายในปล่องต้องมากกว่าหรือเท่ากับ
1.5 เท่า ของความเร็วลมที่ปลายปล่องท่อทางออก โดยคำนวณพื้นที่หน้าตัดจาก A =
Q/V
-
ความสูงของปล่องท่อทางออก
กำหนดค่าได้จากค่าความเข้มข้นที่ระดับผิวพื้นที่ จะต้องไม่เกินกว่าค่าความเริ่มต้นที่จะได้กลิ่น
แต่ในทางปฏิบัติจะกำหนดความสูงของปล่องให้พ้นจากสิ่งปลูกสร้างโดยรอบ